ถึงแม้ว่าเราคิดว่าดูแลรักษาป้องกันรถดีแล้วก็ตาม
แต่ก็มีสิ่งสกปรกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเผชิญอยู่ในทุกวัน โดย 7 สิ่งสกปรกเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวก่อให้เกิดความรำคาญใจต่อรถคันรักของเราได้เสมอ วันนี้ศูนย์รวมบริษัทรถเช่าภูเก็ต มีวิธีป้องกันสีรถจาก 7 คราบสกปรกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มาฝากให้อ่านไว้เป็นความรู้ ไปดูกันว่าเจ้าสิ่งสกปรกทั้ง 7 เหล่านั้นคืออะไรและมีวิธีป้องกันสีรถจากพวกมันได้อย่างไรบ้าง
1.ยางมะตอย
บนถนนบางเส้นที่มีการซ่อมแซมผิวถนนหรืออาจจะราดยางมะตอยใหม่ๆ ยังไม่เซ็ทตัวดี หากเป็นเส้นทางที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องใช้ ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่เจ้าเศษยางมะตอยที่ยังไม่แห้งจะกระเด็นมาติดรถเรา
วิธีป้องกัน หากโดนเศษยางมะตอยกระเด็นโดนรถ ให้รีบทำความสะอาดเช็ดออกด้วยน้ำมันสนหรือน้ำมันก๊าด จะช่วยให้เศษยางมะตอยหลุดออกได้อย่างง่ายดาย แถมราคาถูกอีกด้วย ปล. อย่าปล่อยให้ยางมะตอยที่กระเด็นมาติดแห้งแข็งไปนะ เพราะมันอาจจะทำลายสีรถของคุณก็เป็นได้
2. ขี้นก
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาน่าปวดหัวเลยสำหรับเจ้าขี้นก อาจจะดูเหมือนเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ทราบหรือไม่หากปล่อยให้ขี้นกแห้งติดรถไปนานๆ มันจะเข้าทำลายสีผิวของรถยนต์ได้
วิธีป้องกัน ใช้สเปรย์ทำความสะอาดสเปรย์ลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์แล้วค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดเบา ๆ เพราะในขี้นกมักจะมีเศษกรวดเศษหินเล็ก ๆ อยู่ในนั้นด้วย หากขัดแรง จะทำให้เศษกรวดหินเล็ก ๆ เหล่านั้นครูดสีรถ ทำให้สีรถหมดสวยไปเปล่า ๆ
3. แมลง
ถึงแม้แมลงจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก แต่รู้หรือไม่ว่าความเสียหายที่มันสร้างให้กับรถของคุณนั้นร้ายแรงไม่เหมือนกับขนาดของมันเลย เพราะด้วยความที่ซากแมลงมีความเป็นกรด เมื่อมันบินมาชนรถแล้วตาย กรดจากตัวของมันจะเป็นตัวทำลายกัดกร่อนสีรถของคุณ
วิธีป้องกัน หากมีแมลงบินมาชนรถของคุณแล้วเหลือซากศพไว้ให้ดูต่างหน้า ให้คุณรีบทำความสะอาดทันทีด้วยน้ำยาสำหรับขจัดรอยน้ำมันและคราบแมลง จากนั้นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มอีกครั้ง
4. รอยนิ้วมือ
เมื่อวิ่งรถไปบนท้องถนนแล้วเห็นรถคันใดก็ตามที่ปล่อยให้ฝุ่นเขรอะเกาะเต็มรถแล้วมีลายนิ้วมือที่เขียนประโยคแซวประมาณว่า “ล้างรถบ้างนะ” มันเป็นเหตุการณ์ที่ขำสำหรับเรา แต่คงไม่น่าขำสำหรับเจ้าของรถ เพราะทุกครั้งที่เอานิ้วกดลงไปเพื่อเขียนประโยคต่างๆ ไว้ มันเป็นการกดเอาเศษหินให้เข้าไปขูดผิวรถด้วย ก่อให้เกิดรอยต่างๆ บนผิวรถ
วิธีป้องกัน ควรดูแลทำความสะอาดรถอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ฝุ่นเกาะผิวรถ เพื่อป้องกันคนมือบอนมาเขียนแซว ทุกครั้งที่ทำความสะอาดรถควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความเงางาม เมื่อรถมีความเงา ฝุ่นต่างๆ จะเกาะตัวรถได้ยาก
5. คราบน้ำมัน
บ่อยครั้งที่เด็กเติมน้ำมันมักจะพยายามใส่น้ำมันเพื่อให้ค่าน้ำมันไม่ตกเศษ เลยทำให้น้ำมันล้นออกนอกถัง น้ำมันหยดย้อยลงมาบริเวณผิวใต้ช่องใส่น้ำมัน ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ทำความสะอาดคราบน้ำมันเหล่านั้น จะทำให้ผิวเคลือบรถถูกทำลาย ทำให้ผิวรถบริเวณนั้นไม่เงางาม
วิธีป้องกัน หากเกิดกรณีที่น้ำมันหยดไหลลงมาบริเวณช่องเติมน้ำมัน ให้รีบทำความสะอาดทันด้วยด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์
6. เศษหิน
บ่อยครั้งที่นำรถออกท้องถนนแล้วต้องเจอกับเศษหินเศษกรวดปลิวกระเด็นมาโดนทั้งกระจกตัวและตัวรถ ยิ่งชวนที่ต้องวิ่งรถร่วมทางกับรถบรรทุกหินด้วยแล้วล่ะก็ บนถนนจะคุ้งไปทั้งเศษกรวดและฝุ่นหิน ซึ่งหินกรวดที่ปลิวกระเด็นมาโดนรถนั้นสามารถทำลายชั้นผิวรถของคุณได้
วิธีป้องกัน ควรทำการเคลือบสีรถเพื่อเพิ่มความหนาของชั้นสี ทำให้ผิวรถไม่ถูกทำลายได้ง่าย ๆ
7. อุปกรณ์ทำความสะอาดรถที่สกปรก
การล้างรถที่ดีควรแยกผ้าเช็ดในบริเวณส่วนต่าง ๆ ออกจากกัน โดยควรใช้ผ้า 3 ผืน ใน 3 บริเวณ แต่ด้วยความมักง่ายในบางคนและบางครั้ง จึงใช้ผ้าเพียงผืนเดียวเช็ดมันเลยทั้งคันรถ ซึ่งวิธีนี้นี่เองทำให้เศษกรวดบริเวณช่วงล่างของรถขรูดสีรถของคุณ
วิธีป้องกัน ควรใช้ผ้า 3 ผืน ใน 3 บริเวณ แบ่งเป็น 1.บริเวณด้านบนของรถตั้งแต่กระจกรถขึ้นไปจนถึงหลังคารถ 2.บริเวณช่วงกลางรถ คือบริเวรกระโปรงหน้ารถ ด้านประตูด้านล่างของกระจกทั้ง 2 ด้าน ช่วงท้ายรถ 3. บริเวณแถวบังโคนและใต้ล้อรถ โดยต้องทำความสะอาดไล่จากที่ที่ไม่มีเศษกรวดหรือมีเศษน้อยก่อนเสมอ
ถึงแม้จะเป็นสิ่งสกปรกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็มีวิธีป้องกันเป็นตัวช่วยไว้คอยแก้ไข เมื่อคุณต้องเผชิญกับสิ่งสกปรกทั้ง 7 นี้อย่างแน่นอน ลองนำเอาวิธีป้องกันที่ DriveHub แนะนำไปใช้สิครับ เพื่อให้รถของคุณยังคงความสวยงามได้อย่างยาวนาน .. ด้วยความปรารถนาดีจาก DriveHub ศูนย์รวมบริการเช่ารถสนามบินภูเก็ต รถเช่าคุณภาพดีที่จะทำให้คุณเที่ยวได้อย่างอิสระ
